กรมที่ดินส่งซิกคนซื้อบ้าน-ที่ดิน รีบตัดสินใจ /ทำนิติกรรมสัญญาภายในปี2554 ไม่เช่นนั้น ต้องควักกระเป๋าเพิ่ม เฉลี่ย 15-25% จ่ายค่าโอน เหตุกรมธนารักษ์เตรียมประกาศ บัญชีราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ทั่วประเทศยกแผง1มกราคม 2555-31 ธันวาคม 2558 แย้ม ที่ดินต้นถนนสุขุมวิทจากราคา 650,000 บาทต่อตารางวาขยับ 800,000 บาทต่อตารางวา แหล่งข่าวจากกรมที่ดินเปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ในวันที่ 1 มกราคม 2555-31ธันวาคม2558 กรมธนารักษ์เตรียมประกาศบัญชีราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินใหม่ทั่วประเทศ หลังจากบัญชีเก่าจะหมดอายุลงวันที่ 31 ธันวาคม 2554 โดยราคาประเมินที่ดิน เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15-25% โดยเฉพาะทำเลโครงข่ายรถไฟฟ้าและถนนสายสำคัญๆ ทั้งนี้ หากผู้บริโภคต้องการซื้อบ้านในช่วงนี้ต้องตัดสินใจเสียแต่เนิ่นๆ เพราะกว่าจะซื้อบ้านแต่ละหลังหรือที่ดินแต่ละแปลง จะต้องใช้เวลาพอสมควรไม่ต่ำกว่า 3-6 เดือน หรือบางรายต้องใช้ระยะเวลานานเป็นปี ในการศึกษาข้อมูลรอบด้าน และลงพื้นที่สำรวจเพื่อหาซื้อบ้านหรือแปลงที่ดินที่ถูกใจ "หากตัดสินใจล่าช้าจะส่งผลให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มไม่ต่ำกว่า 15-25% เนื่องจากบัญชีราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินฉบับปัจจุบันบังคับใช้ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2552-2554 หมดอายุลง และต้องประกาศใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินใหม่ ดังนั้นหากไม่ต้องการควักกระเป๋าเพิ่ม จากการจ่ายค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมินก็ต้องเร่งโอนและเชื่อว่า สิ้นปี2554 กรมที่ดินจะต้องรับมือโอนบ้าน ที่ดินและคอนโดมิเนียมอย่างถล่มทลายอย่างแน่นอน" ขณะที่ นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมธนารักษ์ได้ สั่งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประเมินราคาที่ดินใหม่ทุกจังหวัดทั่วประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมในการปรับปรุงราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินใหม่และประกาศใช้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1มกราคม 2555 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 เพื่อใช้เป็นมาตรฐานสากลในการจดทะเบียนสิทธิ์และนิติกรรม บ้าน,ที่ดินและคอนโดมิเนียมต่อไป สำหรับราคาประเมินที่ดินจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15-25% โดยเฉพาะทำเลในเขตกรุงเทพมหานคร แนวรถไฟฟ้าและถนนสายสำคัญ เนื่องจากมีศักยภาพและมีความเคลื่อนไหว จากการพัฒนามากที่สุด โดยเฉพาะย่านใจกลางเมือง อย่างสุขุมวิท สาทร สีลม อาทิ ที่ดินช่วงต้น ถนนสุขุมวิท จากราคา 650,000 บาทต่อตารางวา ราคาประเมินใหม่ปรับเป็น 800,000 บาทต่อตารางวา เป็นต้น ส่วนที่ดินตามต่างจังหวัด จะเป็นทำเลแถบชายทะเลหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญอาทิ ภูเก็ต สมุย พัทยา หัวหิน ฯลฯ ขณะเดียวกันบางทำเลอาจมีราคาปรับลดลงหรือทรงตัวเช่นทำเลที่ไม่มีการพัฒนา ที่ดินตาบอดทำเลอยู่ในเขตเสี่ยงอันตรายและเกิดมลพิษ เป็นต้น ขณะที่ การสำรวจและประเมินราคาอาคารชุดที่ขอจดทะเบียนใหม่ทั้งในเขตกทม.และต่างจังหวัดปี 2553 พบว่า เพิ่มขึ้นอีก 262แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในกทม.ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต สมุทรปราการ และนนทบุรี ซึ่งปัจจุบันจดทะเบียนแล้วทั้งประเทศจำนวน 4,600 แห่ง แยกเป็นกทม. 2,000 แห่ง ภูมิภาค 2,600 แห่ง โดยราคาประเมินอาคารชุดสูงสุดอยู่ในกทม. คืออาคารชุดเลอรัฟฟิเน่ชมพูทวีป เขตวัฒนา ตารางเมตรละ 224,500 บาท เขตปทุมวันอาคารชุดคิวหลังสวน ตารางเมตรละ 190,900 บาท เขตคลองเตย อาคารชุดมิลเลนเนียม ตารางเมตรละ 133,500 บาท ตามลำดับ โดยอาคารชุดราคาประเมินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยจากเดิม 140,000 บาทต่อตารางเมตรเป็น 190,000-200,000บาทต่อตารางเมตร หรือกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร ด้านนายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอลซัลแตนท์ จำกัด กล่าวว่า ราคาประเมินที่ดินฉบับใหม่ปรับขึ้นเฉลี่ย 20% โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าถือว่าสูงพอสมควร แต่ราคาซื้อขาย อย่าง ต้นๆถนนสุขุมวิท อโศก สาทร สีลม ราคาขายอยู่ที่ 1,200,000-1,500,000บาทต่อตารางวา ขณะที่ราคาประเมิน ปัจจุบันปี 2552-2554 อยู่ที่ 500,000-600,000 บาทต่อตารางวา และราคาประเมินใหม่ ปี 2555-2558 อยู่ที่ 800,000 บาทต่อตารางวาก็ถือว่าสูงขึ้นใกล้เคียงราคาตลาด
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,601 16-19 มกราคม พ.ศ. 2554
|