ชง3แบงก์สกรีนเข้มสินเชื่อบ้านยิ้มกทม.

โครงการบ้านยิ้ม 2(เพิ่มเติม)เนื้อหอม ข้าราชการ-ลูกจ้างกทม.แห่ใช้สิทธิ์เพียบเกือบ 4 พันราย จนต้องขอเพิ่มวงเงินอีก 4,412 ล้าน จากกรอบเดิมที่วางไว้เพียง 1,090 ล้าน เตรียมส่งรายชื่อให้ 3 แบงก์รัฐ  ธอส. ออมสิน และอิสลาม  สกรีนเข้ม รายไหนได้สิทธิ์วงเงินกู้สร้างบ้าน ซ่อมแซม รีไฟแนนช์ เพดานไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ดอกต่ำ 2.5 %ผ่อนยาว 30 ปี
           แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า  สืบเนื่องจาก กทม.ได้เปิดโครงการบ้านยิ้ม2(เพิ่มเติม) โดยกำหนดกรอบวงเงิน 1,090 ล้านบาท เพื่อให้ข้าราชการและลูกจ้างประจำ ฯลฯ  ใช้สิทธิ์ยื่นกู้ เพื่อก่อสร้างบ้าน ซ่อมแซมต่อเติมและรีไฟแนนซ์  ระหว่างวันที่ 1-28 กุมภาพันธ์ 2554 ปรากฏว่า วันที่ 1 กุมภาพันธ์เพียงวันเดียว มีข้าราชการตลอดจนลูกจ้างยื่นใช้สิทธิ์จำนวน 3,807 ราย และยังมีผู้ที่ติดค้างขึ้นทะเบียนสำรองอีก 1,700ราย  
           อย่างไรก็ดี กทม. ได้พิจารณาเอกสารของข้าราชการและลูกจ้างที่ประสงค์ขอกู้ให้ผ่านทั้งหมดเกือบ 4,000 ราย  เนื่องจากเอกสารหลักฐานครบ ขณะเดียวกัน กทม. จะส่งผู้ที่ขอกู้ ให้กับธนาคารทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)  ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สกรีนอีกครั้งว่า แต่ละรายที่ขอสินเชื่อมีความสามารถในการผ่อนชำระหรือไม่ ภาระหนี้ มีเครดิตบูโรหรือไม่
              ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารว่า จะพิจารณาให้ผ่านวงเงินสินเชื่อกี่ราย ซึ่งผู้ยื่นขอวงเงินกู้จะต้องติดต่อกับธนาคารเหล่านั้นเอง กทม.เพียงแต่เป็นตัวกลางประสานให้เท่านั้น  ซึ่งจะผ่านมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคาร แน่นอนว่า คงไม่ผ่านทั้งหมดตามที่ยื่นขอมาอย่างแน่นอน  ทั้งนี้ทางธนาคารและกทม.จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้สิทธิ์ภายในเดือนมีนาคม 2554 นี้  ซึ่งประเมินว่า ผู้ที่ขอใช้สิทธิ์จะผ่านการอนุมัติสินเชื่อประมาณ 76%  
               สำหรับวงเงินที่อนุมัติเดิมมีเพียง  1,090 ล้านบาท เนื่องจากมีข้าราชการและลูกจ้างประจำสนใจยื่นขอใช้สิทธิ์จำนวนมากจึงมีมติเพื่อวงเงินให้อีก  4,412 ล้านบาท จากวงเงินที่ปล่อยกู้เต็มเพดานตามที่ได้เซ็น MOU หรือ บันทึกความเข้าใจเบื้องต้น ระหว่างกทม.กับ 3 ธนาคารของรัฐ วงเงิน 7,000 ล้านบาท 
          นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ยื่นขอใช้สิทธิ์เพิ่มเติมและกทม.ได้ขึ้นทะเบียนสำรองไว้จำนวน 1,600-1,700 ราย  ซึ่งจะส่งให้ธนาคารพิจารณาหากวงเงินกู้ยังเหลือ  โดยธนาคารจะปล่อยสินเชื่อตามที่ขอกู้ เช่นขอกู้เพื่อซ่อมแซมบ้าน หรือ รีไฟแนนซ์ วงเงิน 200,000 บาท ก็จะปล่อย 200,000 บาท  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวงเงินกู้ที่เสนอขอเพดานไม่เกิน 1,500,000 บาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ เพียง 2.5 %  ผ่อนชำระระยะยาว 30 ปี เพราะเป็นเงินของกทม.เองที่ให้ธนาคารทั้ง 3 แห่งเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้ ดังนั้นจึงสามารถจัดเก็บดอกเบี้ยได้ต่ำๆ เพื่อช่วยเหลือข้าราชการและลูกจ้างของกทม.ให้มีบ้านเป็นของตนเองมีคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,612  24 - 26  กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554